เชื่อว่าหลายๆคนคงเคยได้ยินชื่อ “บุหรี่ไฟฟ้า” กันมาบ้าง บางคนอาจมีการใช้งานอยู่หรือบางคนอาจมีความคิดที่ว่าจะลองใช้งาน ซึ่งในปัจจุบันนั้นบุหรี่ไฟฟ้าถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของคนที่ต้องการลดหรือเลิกบุหรี่ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าบุหรี่ไฟฟ้าเกิดขึ้นมาได้อย่างไร แล้วมีกี่ประเภท วันนี้ทีมงาน vaperose24 จะพาเพื่อนๆไปทำความรู้ จักกับที่มาของบุหรี่ไฟฟ้าที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน
บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร
อุปกรณ์สูบบุหรี่อีกชนิดนึง โดยมีระบบการทำงานจากไฟฟ้า ทำให้เกิดความร้อนกับตัวน้ำยาเฉพาะจนเกิดเป็นไอน้ำ ซึ่งจะไม่มีควันจากการเผาไหม้ยาสูบเหมือนบุหรี่ปกติทั่วไป มีส่วนประกอบหลัก คือ ตัวเครื่องแบตเตอรี่ และน้ำยา
ส่วนประกอบของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า
- สารนิโคติน เป็นสารเสพติดชนิดนึงที่เป็นองค์ประกอบหลักของทั้งบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่ปกติทั่วไป
- สารโพรไพลีนไกลคอล เป็นส่วนประกอบนึงที่ทำให้เกิดควันหรือไอน้ำ
- กลีเซอรีน เป็นสารเพิ่มความชื้นอีกชนิดนึงที่จะผสมผสานกับสารโพรไพลีนไกลคอล เพื่อสร้างให้เกิดไอน้ำและควัน
- สารแต่งกลิ่น เป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับบุหรี่ไฟฟ้า ที่จะทำให้ผู้สูบได้รับประสบการณ์ การรับกลิ่นใหม่ๆ ที่ไม่จำเจเหมือนบุหรี่ไฟฟ้าปกติทั่วไป
ความเป็นมาของบุหรี่ไฟฟ้า
เริ่มต้นจากนักศึกษาจบใหม่ทางด้านธุรกิจจากเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ริเริ่มบุหรี่ไฟฟ้าคนแรกโดยจดชื่อทางสิทธิบัตรว่า Smokeless non-tobacco cigarette เขาได้อธิบายไว้ว่ามันคือสิ่งประดิษฐ์เพื่อใช้ทดแทนบุหรี่ลดการเผาไหม้ของใบยาสูบรวมถึงการเผาไหม้ของกระดาษด้วยความร้อนและเปลี่ยนเป็นระบบไอน้ำ อย่างไรก็ตามการเริ่มต้นของบุหรี่ไฟฟ้าครั้งนั้นยังไม่เป็นที่นิยมมากนักเนื่องจากยังไม่มีสารนิโคตินในตัวอุปกรณ์จึงยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้สูบบุหรี่ได้
จนกระทั่งในปีพุทธศักราช 2546 เภสัชกรชาวจีนได้ประดิษฐ์บุหรี่ไฟฟ้าที่มีสารนิโคตินขึ้นมาโดยได้รับแรงบันดาลใจจากการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอดของบิดาของเขา โดยอธิบายเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าไว้ว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นการสูบนิโคตินที่สะอาดและปลอดภัยกว่าบุหรี่ จุดเด่นของบุหรี่ไฟฟ้าคือการตัดระบบการเผาไหม้ไม่มีควันไม่มีขี้เถ้าจึงลดความเสี่ยงจากการรับสารพิษต่างๆที่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้ในบุหรี่เช่นสารคาร์บอนมอนอกไซด์และทา ที่เป็นสารก่อโรคมะเร็ง
หลังจากนั้นได้มีการวางขายในประเทศจีนเป็นประเทศแรกในปีถัดมาและนั้นเองนะเป็นจุดเริ่มต้นของวิวัฒนาการของวงการบุหรี่ไฟฟ้าโดยเราแบ่งทั้งหมดเป็น 4 Generation แน่นอนว่าในช่วงแรกบุหรี่ไฟฟ้าในแบรนด์จะออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีลักษณะที่คล้ายคลึงกับบุหรี่มากที่สุดทั้งด้านรูปทรงการสัมผัสและท่าทางการสูบ ทำให้ Generation แรกของบุหรี่ไฟฟ้ามีหน้าตาเหมือนกับบุหรี่ยังไงอย่างนั้นเลย
ยุค ที่ 1 Generation นี้จะขอเรียกว่าบุหรี่ใช้แล้วทิ้งจะประกอบไปด้วยแบตเตอรี่อะตอมไมเซอร์ที่ให้ระบบความร้อนมีทั้งแบบนิโคตินและไม่มีนิโคตินแต่ก็ไม่เป็นที่นิยมมากนักเนื่องจากบุหรี่ไฟฟ้าใช้แล้วทิ้งไม่สามารถชาร์จแบตเตอรี่หรือเติมน้ำยาได้ ที่สำคัญรสชาติของมันยังห่างจากความต้องการของผู้ใช้
ยุค ที่ 2 มีแนวโน้มที่จะเป็นที่นิยมของนักสูบมากเพิ่มขึ้นแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆก็คือส่วนของแบตเตอรี่ที่สามารถชาร์จได้ในตัวและหัวน้ำยาที่แยกออกจากกันทำให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนกลิ่นและรสชาติตามที่ต้องการได้
ยุค ที่ 3 Mod มาจากคำว่า Modification e-cigs แน่นอนว่าผู้ใช้มีอิสระในการปรับแต่งตัวเครื่องในเรื่องของการใช้งานได้มากยิ่งขึ้น เช่นการปรับวัตต์ไฟและหัวน้ำยาสามารถเติมได้
ยุค ที่ 4 แล้วก็มาถึงGeneration ที่ 4 หยดสูบนั่นเองทุกคนคงรู้จักคำนี้ดี เครื่องที่มีเทคโนโลยีใกล้เคียงกับปัจจุบันมากที่สุดเป็นที่ต้องการของตลาดเนื่องจากมีความจุของแบตเตอรี่มากยิ่งขึ้นตัวเครื่องนิยมผลิตจากสแตนเลสซึ่งมีความทนทานและแข็งแรงทั้งปัจจุบันมีขนาดที่ใหญ่สามารถเติมหรือเปลี่ยนรสชาติน้ำยาตามที่เราต้องการได้ รวมไปถึงมีปุ่มปรับวัตต์เพื่อให้ได้รสชาติน้ำยาที่ดีที่สุด
ปัจจุบันได้มีการผลิตบุหรี่ไฟฟ้ามาสู่ท้องตลาดในหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นเครื่องไฮบริดที่เรียกว่า Mod pod ที่เป็นการผสมผสานระหว่าง Generation ที่ 3 และ 4 เข้าด้วยกันหรือว่าจะเป็นตัวที่กำลังนิยมอย่าง pod System ที่มีขนาดเล็กพกพาง่ายและการใช้งานที่สะดวกมีฟิวการสูบที่คล้ายกับบุหรี่มากที่สุดเหมาะสำหรับคนที่ต้องการเลิกบุหรี่หรือทดแทนการสูบบุหรี่นั่นเอง
เหตุผลที่ควรเลือกใช้งานบุหรี่ไฟฟ้า
1.เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเลิกบุหรี่
บุหรี่ไฟฟ้านับเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการจะเริ่มต้นเลิกบุหรี่ เนื่องจากบุหรี่ไฟฟ้ามีน้ำยาที่สามารถเลือกระดับของนิโคตินได้จึงทำให้ผู้ที่ต้องการลดบุหรี่สามารถลดระดับนิโคตินลงได้และจะทำให้เลิกบุหรี่ได้ง่ายขึ้น ดังนั้นบุหรี่ไฟฟ้าที่นับเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการเลิกบุหรี่จะช่วยทำให้เลิกบุหรี่ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
2.มีความอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ปกติ
นับเป็นเหตุผลดับต้นที่ทำให้คนมาเรียกใช้งานบุหรี่ไฟฟ้าด้วยความที่ผลิตไฟฟ้านั้นมีอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ธรรมดาเนื่องจากบุหรี่ธรรมดาแบบปกตินั้นจะใช้การเผาไหม้ในการสูบซึ่งการสูบแบบนี้จะนำพานิโคตินเข้าสู่ร่างกายพร้อมกับสารเคมีมีจำนวนมากเช่นสารหนูหรือสารทาซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายเป็นอย่างมากเทียบความอันตรายแล้วฟ้ามีความปลอดภัยปลอดภัยกว่าบุหรี่แบบมวลเอาบุหรี่ไฟฟ้าใช้การระเหยนิโคตินเข้าสู่ร่างกายจึงไม่ก่อให้เกิดสารหนูหรือสารทาเหมือนบุหรี่แบบปกติ
3.ราคาที่ประหยัดมากกว่า
อีกเหตุผลที่ทำให้คนจำนวนมากหันกลับมาดูบุหรี่ไฟฟ้าเรื่องของราคาโทรหายาวแล้วการเลือกใช้บุหรี่ไฟฟ้าแล้วจะมีราคาที่ถูกกว่าการสูบบุหรี่แบบปกติเป็นอย่างมากปกติคนที่สูบบุหรี่ต่อวันนั้นจะสูบบุหรี่ประมาณ 5 โมงเป็นอย่างต่ำและใน 1 ซองจะมีเพียง 20 ตัวไม่กี่วันก็หมดแล้วแต่บุหรี่ไฟฟ้าเติมน้ำยาก็สามารถหยุดได้เพียงพอต่อ 1 วันซึ่งหากมองในระยะยาวแล้วราคาของบริวารนั้นมีราคาที่ถูกกว่าบุหรี่แบบมวนเป็นอย่างมาก
4.สามารถหาซื้อมาใช้งานได้ง่าย
ในข้อนี้อาจจะแปลกใจว่าทำไมถึงหาซื้อได้ง่ายกว่าทางที่บุหรี่ธรรมดาสามารถหาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไปแต่หากมองให้ลึกเข้าไปแล้วการจัดการสั่งซื้อบุหรี่ไฟฟ้านั้นสามารถสั่งซื้อได้ทางหลายช่องทางไม่ว่าจะเป็นหน้าร้านหรือว่าสั่งซื้อตามเว็บไซต์ออนไลน์จึงทำให้เหมาะและสะดวกกับคนที่ไม่มีเวลาในการไปหาซื้อเป็นอย่างมาก
5.มีหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้งาน
นับเป็นอีกข้อที่ตอบโจทย์สำหรับนักสู้ที่เบื่อบุหรี่ไฟฟ้ามีให้เลือกหลากหลายรูปแบบหลากหลายรุ่นไม่ว่าจะเป็นบุหรี่ไฟฟ้าแบบ หยดสูบ บุหรี่ไฟฟ้าแบบอะตอมหรือบุหรี่ไฟฟ้าแบบ pod ซึ่งมีให้เลือกมากมายทั้งที่ใช้งานในระยะยาวหรือว่าใช้แล้วทิ้งวันต่อวันจริงนะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่ขี้เบื่อที่ต้องการเปลี่ยนฟิวส์ในการสูบของตัวเองไปเรื่อยๆ
6.กลิ่นของบุหรี่ไฟฟ้า
มีเหตุผลที่ทำให้ผู้ที่สูบบุหรี่ปกติหันกลับมาสูบบุหรี่ไฟฟ้ากันมากขึ้นกินก็เป็นปัจจัยสำคัญเช่นกันเนื่องจากบุหรี่แบบมวนมีกลิ่นที่เหม็นหาคนที่ไม่สูบบุหรี่แล้วด้วยพี่จะเหม็นเป็นอย่างมากเวลาเข้าสังคมอาจจะทำให้กลิ่นที่ไม่พึงประสงค์แต่สำหรับบุหรี่ไฟฟ้าแล้วกินไม่ได้เป็นปัญหาเลยบุหรี่ไฟฟ้ามีทั้งกลิ่นของผลไม้ความหวานจึงทำที่จึงทำให้ผู้ที่ได้กลิ่นไม่รู้สึกเหม็นหรือรังเกียจจากการจะทำให้ผู้ที่ได้กลิ่นน้ำหอมตามไปด้วยอีกต่างหาก
จากอดีตถึงปัจจุบันมีการพัฒนาบุหรี่ไฟฟ้ามาอย่างต่อเนื่องทั้งรูปร่างหน้าตาและเทคโนโลยีต่างๆแต่ไม่ว่าจะเป็นยุคไหนเป้าหมายของบุหรี่ไฟฟ้า ก็คือเป็นหนึ่งในตัวเลือกให้กับนักสูบเพื่อใช้ทดแทนการสูบบุหรี่และการเลิกบุหรี่ได้ในท้ายที่สุด ไม่ได้บอกว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าจะปลอดภัย 100% แต่อย่างน้อยมันสามารถช่วยให้ผู้สูบลดความเสี่ยงที่จะได้รับสารอันตรายจากการเผาไหม้บางตัวเช่นทาและคาร์บอนมอนอกไซด์ที่มีในบุหรี่ หวังว่าบทความนี้จะเป็นอีกตัวเลือกนึงที่เพื่อนๆจะใช้ในการติดสินใจเลือกใช้งานบุหรี่ไฟฟ้า